การรักษาฝ้าด้วย RF Microneedle ทางเลือกใหม่ที่ผิวเอเชียต้องการ

ทำความรู้จัก “ฝ้า” ปัญหาผิวที่เรื้อรังที่สุด

ฝ้า (Melasma) มักปรากฏเป็นรอยสีน้ำตาลหรือเทาเข้มบนใบหน้า โดยเฉพาะโหนกแก้ม หน้าผาก และรอบดวงตา ปัญหานี้เกี่ยวข้องกับหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่แสงแดด แต่ยังรวมถึง ฮอร์โมน พันธุกรรม ความเครียด และความผิดปกติของเซลล์ผิว

งานวิจัยพบว่า ในผิวที่เป็นฝ้า มีการสะสมของ เซลล์ไฟโบรบลาสต์เสื่อมสภาพ (senescent fibroblasts) มากกว่าปกติ เซลล์เหล่านี้จะกระตุ้นเมลาโนไซต์ให้สร้างเม็ดสีเพิ่มขึ้น และทำให้ฝ้ากลับมาเป็นซ้ำได้ง่าย นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ป่วยฝ้ามีความผิดปกติของ เส้นเลือดฝอยและการเพิ่มขึ้นของ VEGF ซึ่งมีส่วนกระตุ้นการเกิดเม็ดสี

RF Microneedle คืออะไร?

RF Microneedle คือเทคโนโลยีที่ใช้ เข็มขนาดเล็ก (Microneedle) เจาะลึกลงไปในชั้นหนังแท้ (Dermis) พร้อมปล่อยพลังงาน Radiofrequency (RF) ออกมาในตำแหน่งที่แม่นยำ

ข้อดีของเทคนิคนี้คือพลังงานลงไปถึงชั้นผิวเป้าหมายโดยตรง แต่ไม่ทำลายผิวชั้นบนมากนัก จึงลดโอกาสเกิด รอยดำหลังทำ (PIH) ซึ่งมักเป็นปัญหาในผู้ป่วยเอเชีย

กลไกที่ RF Microneedle ช่วยจัดการกับฝ้า

  1. ควบคุมการทำงานของเมลาโนไซต์
    ลดสัญญาณกระตุ้นที่ทำให้เซลล์สร้างเม็ดสีทำงานมากเกินไป
  2. ฟื้นฟูเส้นเลือดผิดปกติ
    ช่วยลดการกระจายตัวของเส้นเลือดที่เป็นตัวกระตุ้นเม็ดสี
  3. ลดไฟโบรบลาสต์เสื่อมสภาพ
    RF Microneedle ช่วยลดจำนวนเซลล์เสื่อมในชั้นหนังแท้ พร้อมเพิ่มการสร้าง Procollagen-1 ทำให้ผิวแข็งแรงและสดใสขึ้น
  4. ใช้ร่วมกับเลเซอร์/ยาทาได้ดี
    การศึกษาเคสฝ้าที่ดื้อการรักษาพบว่า เมื่อใช้ RF Microneedle ร่วมกับเลเซอร์ Q-Switched Nd:YAG และยาทาฝ้า ให้ผลลัพธ์ดีกว่าการรักษาแบบเดี่ยว ๆ

จากงานวิจัย

  • การรักษาฝ้าดื้อการรักษา
    ผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อเลเซอร์และยาทา เมื่อทำ RF Microneedle ร่วมด้วย 5–7 ครั้ง พบว่าฝ้าลดลง 50–70% โดยไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง
  • การรักษาฝ้ารอบดวงตา
    ซึ่งมักดื้อการรักษา พบว่าการใช้ RF Microneedle ช่วยลดโอกาสการเกิดรอยดำซ้ำและให้ผลที่มั่นคงขึ้น
  • การศึกษาเรื่องเซลล์เสื่อม
    พบว่าผิวที่มีฝ้ามีจำนวน p16INK4A-positive fibroblasts สูงกว่าในผิวปกติ การรักษาด้วย RF Microneedle ลดจำนวนเซลล์เสื่อมเหล่านี้ พร้อมเพิ่มคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวใสและแข็งแรงขึ้น

ขั้นตอนการรักษา

  1. ทำความสะอาดผิวหน้าและทายาชา
  2. ใช้หัว RF Microneedle ปล่อยพลังงานลงใต้ชั้นผิว (ใช้เวลาประมาณ 20–30 นาที)
  3. หลังทำผิวจะแดงเล็กน้อย คล้ายผิวถูกแดดจัด ๆ ประมาณ 1–2 วัน

ใครเหมาะกับวิธีนี้?

  • ผู้ที่รักษาฝ้ามาหลายวิธีแล้วไม่ดีขึ้น
  • ผู้ที่กลัวรอยดำหลังเลเซอร์
  • ผู้ที่ต้องการทั้งรักษาฝ้าและฟื้นฟูผิว
  • เหมาะกับผิวทุกประเภท โดยเฉพาะผิวเอเชีย

การดูแลหลังทำ

  • หลีกเลี่ยงแดดจัด ๆ 1–2 สัปดาห์
  • ใช้ครีมกันแดด SPF 50+
  • งดสครับผิวหรือครีมผลัดเซลล์แรง ๆ ชั่วคราว
  • บำรุงผิวและพักผ่อนให้เพียงพอ

สรุป

RF Microneedle เป็นทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้ป่วยฝ้า โดยเฉพาะฝ้าดื้อการรักษา เพราะแก้ปัญหาได้หลายมิติ ทั้งเม็ดสี เส้นเลือด และเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ หลักฐานจากงานวิจัยยืนยันแล้วว่าช่วยให้ฝ้าลดลงจริง และให้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนกว่าวิธีดั้งเดิม

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาวิธีรักษาฝ้าอย่างปลอดภัยและเหมาะกับผิวเอเชีย RF Microneedle คือคำตอบที่ควรลองดูค่ะ

References

  1. Choi M, Choi S, Kang J, Cho SB. Successful Treatment of Refractory Melasma Using Invasive Micro-Pulsed Electric Signal Device (Case Report). Med Laser. 2015;4(1):39–44.
  2. Jung YS, Bae JM, Kim BJ, Kang JS, Cho SB. Periorbital melasma: Hierarchical cluster analysis of clinical features in Asian patients. Skin Res Technol. 2017;23(1):1–6. doi:10.1111/srt.12370
  3. Kim M, Kim SM, Kwon S, Park TJ, Kang HY. Senescent fibroblasts in melasma pathophysiology. Exp Dermatol. 2019;28(7):719–722. doi:10.1111/exd.13814
  4. Goldberg DJ, Hussain M. Electromagnetic initiation and propagation of bipolar RF tissue reactions. Sci Rep. 2016;6:16735. doi:10.1038/srep16735

Similar Posts